อันตรายของยาโรแอคคิวเทน
ปัญหาที่น่ากลัวที่สุดของยาตัวนี้ คือหากรับประทานแล้วตั้งครรภ์ เด็กจะพิการ จึงมีข้อกำหนดว่าจะต้องคุมกำเนิด 1 เดือนก่อนรับยา และคุมกำเนิดต่อไปเรื่อยๆ ถ้าจะตั้งครรภ์ต้องหยุดยาล่วงหน้าก่อน 1 เดือน จึงสามารถตั้งครรภ์ได้โดยปลอดภัย และต้องไม่บริจาคเลือดระหว่างรับยาตัวนี้ นอกจากนั้นผลข้างเคียงของยามักทำให้ริมฝีปากและนัยน์ตาแห้ง จึงควรใช้ลิปมันและหยอดน้ำตาเทียมอยู่เสมอ
แต่เดิมการใช้ยาโรแอคคิวเทน (Roaccutane) ซึ่งเป็นชื่อทางการค้าของกรดวิตามินเอ อันมีตัวยาสำคัญคือ Isotretinoin จะเน้นที่กลุ่มผู้เป็นสิวหัวช้างเท่านั้น แต่ขณะนี้ได้มีข้อสรุปใหม่ว่า นอกจาก Isotretinoin จะเป็นยาตัวแรกสำหรับการรักษาสิวหัวช้างแล้ว ยังอาจใช้ได้ในผู้เป็นสิวชนิดอื่นอีก คือ สิวที่ไม่ตอบสนองต่อยาปฏิชีวนะซึ่งให้คำจำกัดความว่าคือสิวที่ให้ยาปฏิชีวนะรับประทานและทามาแล้ว 6 เดือน รอยโรคดีขึ้นไม่ถึง 50% หรือใช้ในผู้เป็นสิวที่กลับเป็นซ้ำในระหว่างและหลังการรักษา สิวที่ก่อให้เกิดแผลเป็นซึ่งมีผลเสียทางด้านจิตใจและสังคม รวมทั้ง ผู้เป็นสิวที่มีความผิดปกติทางจิตใจร่วมด้วย เช่น ซึมเศร้าอย่างมากแม้ว่ารอยโรคสิวจะเป็นไม่มากนัก ส่วนข้อบ่งชี้อื่นๆ ของยาชนิดนี้ คือ รักษาสิวที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียกรัมลบ สิวที่ทำให้หน้าแดงซึ่งจะมีจมูกโตผิดรูปร่าง สิวสยอง และสิวเรื้อรังที่รักแร้ครับ ควรรับประทานยาตัวนี้ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังเท่านั้น ปัจจุบันยา Isotretinoin ยังมีชื่อทางการค้าอื่นๆ อีก เช่น Acnotin, Isotane, Sotret และ Roacne เป็นต้น
แหล่งที่มา : www.sanook.com