1. จัดตำแหน่งห้องในบ้านให้รับลม และแสงสว่างให้มากที่สุด
  2. เติมบ่อน้ำในบริเวณทิศใต้ เพื่อให้ลมพัดผ่านน้ำเข้าบ้านมีความเย็นเพิ่มขึ้น
  3. ลดความสูงของรั้วบ้านทำเป็นรั้วโปร่งเพื่อให้ลมพัดผ่านเข้าสู่ในบ้านได้
  4. ปลูกต้นไม้ใหญ่บังแดดที่แผดเผาบ้าน ช่วยให้ภายในบ้านเย็นสบาย
  5. ปลูกต้นไม้กระถางภายในบ้านทำให้บ้านดูมีชีวิตชีวา และอากาศสดชื่น
  6. ติดตั้งกันสาดหรือระแนงกันความร้อนจากแสงแดดให้กับผนังทิศใต้และทิศตะวันตก
  7. การต่อเติมบ้านควรมีทางให้แสงและลมเข้าออกสู่ภายในบ้านได้ จะช่วยให้บ้านเย็นขึ้น
  8. ลดพื้นที่ลานคอนกรีตรอบบ้านด้วยการปลูกหญ้าหรือพืชคลุมดินแทน ช่วยลดการสะท้อนความร้อนจากลานคอนกรีต ลมที่พัดเข้าบ้านจึงไม่ร้อน
  9. เปิดหน้าต่างทางทิศเหนือและทิศใต้ ช่วยให้อากาศถ่ายเทระบายเอาความร้อนออกไป
  10. ติดอุปกรณ์กันแดด เช่น ผ้าม่าน หรือมู่ลี่ บริเวณหน้าต่างที่แดดเข้า ช่วยป้องกันรังสีความร้อนได้อย่างมาก
  11. ติดฉนวนกันความร้อนให้กับหลังคาและผนังด้านซึ่งโดนแดดจัด ป้องกันความร้อนเข้าสู่ในบ้าน
  12. ฝ้าเพดานของที่จอดรถหรือระเบียงติดตั้งฉนวนกันความร้อนเป็นตัวสกัดความร้อนที่ถ่ายเทเข้าบ้านได้ดีเยี่ยม
  13. อย่าติดตั้งฝ้าเพดานในระดับที่ต่ำเกินไป ทำให้ความร้อนไม่ถ่ายเท
  14. ใช้บล็อกแก้วหรือเปลี่ยนเป็นหลังคาโปร่งแสงเพิ่มแสงสว่างให้มุมมืดในบ้าน
  15. ติดเครื่องดูดควันและพัดลมดูดอากาศในห้องครัว ทำให้ความร้อน กลิ่น และควันที่สะสมอยู่ในบ้านถูกกำจัดออกไป และควรเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทด้วย
  16. วางข้าวของเครื่องใช้เป็นระเบียบเรียบร้อย ทำให้ลดการสะสมฝุ่น กลิ่น และเชื้อโรค
  17. วางเฟอร์นิเจอร์ในตำแหน่งที่ไม่บดบังแสงสว่าง และปิดกันทางลมผ่าน เช่น ตู้สูงใหญ่ทึบควรตั้งติดผนังอย่าวางขวางกลางห้อง แม้จะต้องกั้นเพื่อแบ่งแยกพื้นที่ใช้สอย ควรใช้ตู้เตี้ยหรือโปร่งแทน
  18. วางเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากผ้าซึ่งมีคุณสมบัติในการอมความร้อนได้ดีอยู่ติดผนังด้านที่ไม่โดนแดด

     

  19. ทำความสะอาด มุ้งลวด ผ้าม่าน โซฟา พรม ที่เป็นตัวสะสมฝุ่น เป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้
  20. อย่าให้ผนังและพื้นสะสมความชื้นและเกิดเชื้อรา ด้วยการหมั่นทำความสะอาด ซ่อมหรือทาสีใหม่
  21. ทำความสะอาดซอกมุมเฟอร์นิเจอร์ หลังตู้ให้ไม่เป็นที่สะสมฝุ่น
  22. ทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้า พัดลม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
  23. ทำความสะอาดกระจกที่หน้าต่าง ประตู ทำให้บ้านได้รับแสงสว่างมากขึ้น
  24. ปูพรมผืนเล็กเฉพาะบริเวณที่จำเป็นเท่านั้น ทำความสะอาดได้ง่ายและไม่สะสมฝุ่น
  25. ลดการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เป็นตัวสร้างความร้อน ทำให้ไม่สะสมคามร้อนในบ้าน
  26. ใช้ไฟเฉพาะจุดที่ต้องใช้ความสว่าง และใช้หลอดประหยัดไฟ
  27. สลายความอับ อย่าให้เกิดบรรยากาศ อึดอัด เงียบ วังเวง โดยการเปิดหน้าต่าง งดการใช้แอร์
  28. ขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์อบอวลอยู่ภายในบ้าน
  29. หาต้นเหตุของฝุ่นควันที่ลอยเข้าภายในบ้าน แก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยการกำจัดต้นเหตุของปัญหา
  30. มีเฟอร์นิเจอร์เท่าที่จำเป็น ไม่ต้องใหญ่โตมากจนทำให้รู้สึกทึบ
  31. ปิดประตูตู้เย็นทุกครั้ง และไม่เปิดบ่อยหรือนานเกินความจำเป็น
  32. ถ้าจะเก็บหนังสือ หรือทำห้องสมุดภายในบ้าน ควรมีการระบายอากาศที่ดี
  33. ติดพัดลมระบายอากาศในห้องน้ำ ช่วยลดความอับชื้น อันเป็นที่สะสมของเชื้อโรค
  34. ใช้สีโทนอ่อนสะอาดตาทั้งภายนอกและภายในบ้าน ช่วยให้ผนังไม่สะสมความร้อน
  35. ทาสีผนังด้วยสีโทนอ่อน ช่วยลดการสะสมความร้อน ทำให้บ้านดูกว้างและสว่างขึ้นด้วย
  36. เติมกลิ่นหอมตามมุมต่างๆ ในบ้าน... จะทำให้รู้สึกสดชื่น สบาย และอารมณ์ดี
  37. สร้างเสียงธรรมชาติ เสียงเพลงไพเราะรื่นหู คลอเบาๆ ภายในบ้าน ทำให้เกิดอารมณ์สดชื่น
  38. ติดภาพทิวทัศน์ หรือภาพเขียนสวยงามที่ผนัง เพื่อให้พักผ่อนสายตา ทำให้รู้สึกร่าเริง สบายใจ
  39. มีสิ่งประดิษฐ์เล็กๆ สำหรับประดับตกแต่งบ้าน ทำให้ดูน่ารัก และน่าอยู่ขึ้น
  40. สวมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย ช่วยคุณคลายร้อนได้