วิธีปฏิบัติเมื่อ นั่ง TAXI คนเดียว (ป้องกันตัว)


ที่เราต้องระมัดระวังตัวเวลานั่ง taxi ไม่ใช่เรามองว่าคนขับ taxi ทุกคนไม่ดีนะครับ แต่เพราะอาชีพ taxi เป็นอาชีพที่ใครมาขับก็ได้ ไม่ต้องทำประวัติอาชญากร และก็มีคนที่ขับ taxi บางคนใช้อาชีพนี้ในทางไม่ดี อย่างที่เราเห็นในข่าวมากมาย และที่สำคัญคือ เมื่อ เราอยู่บน taxi ก็จะมีแต่เรา และคนขับเท่านั้น ถ้าเกิดอะไรไม่ดีขึ้น......เราจะทำอย่างไรหล่ะ..... เราต้องมี วิธีป้องกันตัว

 

เพราะฉะนั้นควรดูแลความปลอดภัยของตัวเองไว้หน่อย เพราะกันไว้ย่อมดีกว่าแก้นะครับ

  1. วิธีการปฏิบัติตัวเริ่มตอนไหนดี..........
    เริ่มตั้งแต่ก่อนขึ้นรถ ตอนที่เราบอกทาง ก็สังเกตว่าในรถมีทะเบียนรถที่เป็นแผ่นเหล็กติดอยู่ที่ประตูหรือไหม และแอบสังเกตว่าคนขับหน้าตา ท่าทาง ดูน่าไว้วางใจหรือไม่ มีอาการมึนเมาหรือเปล่า
  2. เมื่อขึ้นไปนั่งทำอะไรอันแรก..........
    ควรจำทะเบียนรถทันที หรือจดใส่กระดาษไว้เลย ดูชื่อคนขับ และดูรูปว่าในใบที่ติดในรถกับคนที่ขับอยู่ตรงกันหรือไม่
    (แล้วจะให้ดีที่สุด โทรศัพท์เลยครับ โทรหาคนที่ท่านกำลังจะไปหา บอกไปเลยดังๆ ให้คนขับได้ยินว่า "ฉันขึ้นรถ TAXI เขียว-เหลือง ป้ายทะเบียน กทม. มจ. xxxx คนขับชื่อ นาย xxxxx xxxxxxxxxx แต่หน้าตาไม่เหมือนในรูปที่โชว์นะ แล้วเจอกัน" แล้วนั่งนิ่งๆ ไปเลย บอกทางอย่างเดียว ไม่ต้องอาย ทำดี อย่ากลัว *** แล้วอย่าลืม!!! สเปรย์พริกไทย ที่ซื้อมานะ อยู่ตรงไหน เอาออกมา ปลด LOCK ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เห็นท่าไม่ดี ฉีดก่อนเลย อย่าลังเล..........ความเห็น Webmaster)
  3. แล้วจะนั่งตรงไหนดีที่สุด..........
    ถ้าเราโดยสารไปคนเดียวควรเลือกนั่งเบาะหลังที่นั่งคนขับ โดยนั่งให้ชิดประตูด้านขวา เพราะมีเบาะกั้นและด้านเดียวกับคนขับ เป็นการยากที่คนขับจะใช้อาวุธ หรือสารเคมี ยาสลบต่างๆ ต่อผู้โดยสารโดยตรง และเป็นการยากที่คนขับจะจู่โจมเหยื่อ แต่เวลาจะลงเมื่อถึงที่หมายควรลงทางประตูด้านซ้ายครับ
  4. ถ้าไม่รู้ทาง ทำไงดี ..........
    พยายามอย่าบอกว่าไม่รู้เส้นทางแถวนี้เลย ถึงแม้มาจากต่างจังหวัดไม่รู้ทางเลย ถ้าคนขับถามว่าไปทางไหนดี ควรบอกไปว่า ไปทางไหนก็ได้......แต่ให้ดีก็รถไม่ค่อยติด และไม่เข้าซอยเปลี่ยว (ถ้าไม่จำเป็น) อย่าได้แสดงท่าทางไม่รู้เส้นทาง ไม่รู้เรื่องเลย เป็นลูกคุณหนูเพิ่งเคยเดินทางคนเดียวครั้งแรก หรืออยู่ต่างจังหวัดเพิ่งเข้ากรุงเทพครั้งแรก เพราะอาจเกิดอันตรายได้นะจ๊ะ และถ้าไม่รู้ทางทั้งคนนั่งและคนขับ อาจเปลี่ยนรถคันใหม่ หรือถามทางกับคนแถวนั้น แต่ที่ๆ จอดถามต้องปลอดภัย คนเยอะ ไม่เปลี่ยวเพราะ อาจเป็นพวกเดียวกับคนขับที่เตี้ยมกันก็ได้แต่ให้ดีถึงไม่รู้ทางเลย แต่ถ้าจะไปไหนก็ควรดูๆ ทาง หรือถามคนอื่นว่าตรงผ่านที่ไหนไว้บ้าง
  5. คุยอะไรกับ taxi ได้บ้าง..........
    ควรคุยกับคนขับเฉพาะเรื่องเส้นทางเท่านั้น ไม่ควรคุยเรื่องส่วนตัว หากเค้าชวนคุยเซ้าซี่ ควรตัดบทหรือนิ่งเสีย หรือทำเสียงเคร่งขรึมให้เค้าเกรงใจ แต่ถ้าเราไม่มั่นใจในแววตาของตัวเองว่าเข้มแข็งพอไหม ก็ไม่ต้องไปสบตาคนขับ วางมาดให้เค้าเกรงใจ เพราะคนเหล่านี้เค้าจะชำนาญในการดูสายตา สีหน้า ท่าทาง น้ำเสียง ของคนอยู่แล้ว คนขับบางคนอาจเริ่มคุยจากพูดถึงตัวเองเป็นคนดีอย่างโน้นอย่างนี้ เคยช่วยคนมาแล้ว หรือเกลียดพวก taxi ที่ทำตัวไม่ดี หรือเตือนเราให้ระวัง taxi อย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าเราคุยโต้ตอบแบบว่าถูกคอหรือคล้อยตาม ก็จะเริ่มเข้าเรื่องส่วนตัว และพูดไปพูดมาก็เข้าเรื่องทะลึ่งๆ หรือเอาเรื่องดูดวง มาทักว่าดูหมองๆ เหมือนมีเคราะห์ ถ้าเราไปเชื่อก็จะแนะนำอาจารย์ที่เก่งให้แล้วขอเบอร์หรือจะพาไปเป็นพิเศษ ลองจินตนาการเอาเองแหละกันนะครับว่ามันอันตรายยังไงได้บ้าง
  6. ขณะนั่งสังเกตอะไรบ้าง..........
    • ควรสังเกตเส้นทางตลอดเลาที่ผ่าน มองหาป้ายบอกชื่อถนน ชื่อซอย ซอยที่เท่าไหร่ ถ้ารู้สึกผิดปกติให้โทรหาญาติหรือเพื่อนโดยบอกเส้นทางที่ผ่านมาทุกระยะ
    • บ่อยครั้งที่จะมีคนขับ ปรับกระจกมองข้างหลัง มาดูระดับขา หรือ ระดับหน้าอก เพราะฉะนั้นถ้าขึ้นไปแล้วเห็นว่าคนขับปรับกระจกต่ำเกินไป และอยู่ระดับที่มองเห็นขา หรือหน้าอกเรา ถ้าเป็นไปได้ควรลงเลย เพราะมันแสดงถึงว่าคนขับคนนี้ไม่ให้เกียรติต่อผู้โดยสารผู้หญิง และบ่งบอกถึงว่าเค้าต้องคิดอะไรที่ไม่ดีอยู่บ้างแหละ หรือว่าถ้าจะนั่งต่อไปควรเอากระเป๋า หรือเอามือมาปิดขา หรือเอามากอดอกไว้ วางตัวทำท่าทางให้ดูน่าเกรงใจ แต่ก่อนอื่นเราก็ควรจะดูแลตัวเองเบื้องต้นไว้บ้าง เช่น ไม่แต่งตัวโป๊เกินไป หรือ ถ้าจะแต่งโป๊หน่อยควรมีเสื้อคลุมที่มิดชิด ไม่ควรเปลี่ยนเครื่องแต่งกายในรถ taxi เพราะว่าเคยเห็นมีนักเรียนเปลี่ยนเสื้อในรถ taxi คือ ถอดเสื้อนักเรียนแล้วก็ใส่เสื้อที่จะไปเที่ยวข้างนอก ถึงแม้จะใส่เสื้อซับก็ตามแต่มันก็คงดูไม่ดีนักหรอก หรือถอดเสื้อคลุมเพื่อจะโชว์เสื้อสายเดียวที่คลุมข้างใน หรือใส่เสื้อ 2 ตัวมา แล้วถอดตัวข้างนอกออก หรือเปลี่ยนกางเกงในกระโปรง ช่าย...มันอาจไม่โป้หนิ และอาจปลอดภัยกับคุณเพราะคนที่ทำ ก็คงต้องนั่งกันหลายคนแหละถึงกล้าทำ แต่มันอาจไปกระตุ้นต่อมความเป็นชายของคนขับ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้โดยสารคนต่อๆ ไปได้ใครจะไปรู้ ก็ช่วยๆ กัน
    • ควรสังเกตด้วยว่าคนขับเอามือมาที่ช่องแอร์บ่อยไหม หรือฉีดสเปรย์อะไรที่ช่องแอร์หรือไม่ ถ้าผิดสังเกต รู้สึกมีอาการแปลก เช่น รู้สึกปวดหัว มึนหัว วิงเวียน คลื่นไส้จะอาเจียน ร้อนวูบไปทั้งตัว หวิวๆ เหมือนจะเป็นลม ไม่มีเรี่ยวแรง แสดงว่าคุณอาจโดนมอมยาสลบ ควรหาที่ปลอดภัยคนเยอะๆ สว่างๆ แล้วลงจากรถเลย โทรหาญาติหรือเพื่อนทันที หายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เยอะๆ หาที่พิงแล้วจะดีคุณอย่าไปโวยวายตอนอยู่ในรถเพราะระหว่างที่คุณโวยวาย คุณก็จะสูดเอายาสลบที่มันฟุ้งในรถเข้าไปอีก และจะทำให้คุณสลบเร็วขึ้น
    • มีคนขับบางรายใช้วิธีมาช่วยขนสัมภาระของเรา แล้วพยายามจะแตะเนื้อต้องตัวเราแบบดูไม่ตั้งใจ เพื่อจะป้ายยาสลบสลบใส่เรานั่นเอง
  7. สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องทำเวลานั่ง taxi คือ..........
    ? อย่าคิดว่า “คงไม่มีอะไรหรอก นั่งตั้งหลายครั้งแล้วไม่เห็นมีอะไรเลย “ เพราะจะทำให้คุณปิดโอกาศในการระมัดระวังภัยของตัวคุณเอง
    ? อย่าเผลอหลับบนรถ taxi เด็ดขาด ไม่ว่าคุณจะเหนื่อย ไม่สบาย หรือเมาแค่ไหนก็ตาม
  8. หากเห็นท่าทางไม่ดี ทำยังไงดีหล่ะ..........
    หากเห็นท่าทางไม่ดี เช่น ถูกลวมลาม คนขับรถพูดจาแทะโลม รู้สึกวิงเวียน เหมือนโดนมอมยา หรือคนขับรถออกนอกเส้นทาง ให้โทรหาญาติ เพื่อนสนิท หรือแฟนทันที แจ้งรายละเอียดของรถ ทะเบียน สี ยี่ห้อ (หรือศูนย์ไหนถ้ามี) และชื่อคนขับที่ติดอยู่ในรถ พร้อมกับรายละเอียดสถานที่ และเมื่อสบโอกาส เช่น รถติดไฟแดง หรือรถชลอลง ให้รีบหนีจากรถ แล้วแจ้งตำรวจทันที
  9. ถ้ามันยิ่งขับเร็ว บอกให้จอด แล้วมันไม่จอด ทำไง ??
    ตั้งสติดีๆ เปิดประตู ออกสักด้านหนึ่ง ให้ประตูมันไปโบกสบัดนอกรถ อยู่แย่งนั้นแหละ เดี๋ยวก็ต้องชนอะไรบ้าง เดี๋ยวก็ต้องมีคนเห็น อะไรแปลก เป็นจุดสังเกตุเอง ตำรวจระหว่างทางเห็นก็จะมาช่วยเอง
    อย่ายอมให้มันพาไปในที่ลับตาคนได้ มีอะไรในรถขว้างไปเลย เล็งที่รถข้างๆ ให้ชาวบ้านเห็น
  10. ถ้ามันพาไปถึงที่เปลี่ยวแล้ว หล่ะ ??
    อย่ายอมให้มันประชิดตัว ชิงออกมาก่อน ถ้าไม่มีอาวุธป้องกันตัว ให้เอารถเป็นที่กำบัง ไม่ต้องไปไหน ถ้ามันแน่จริง จับให้ทัน วิ่งรอบรถนั้นแหละ ตะโกนร้องให้คนช่วย ถ่วงเวลาไปก่อน
    คนร้าย มันจะมีความตั้งใจที่จะทำร้ายได้แค่ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น หากเลยเวลาช่วงนั้นไปแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะล้มเลิก หนีเอาตัวรอด
    แต่ถ้านานแล้ว ยังไม่มีใครมาช่วย แล้วมันก็ยังไม่ไปไหน หาโอกาสดีๆ ตะโกนดังๆ ว่า "ตำรวจมา ตำรวจช่วยด้วย" แล้ววิ่งสุดชีวิต
    เพราะคนร้าย มีความกลัวตำรวจอยู่แล้ว เราตะโกนว่า ตำรวจมา มันก็ตกใจ จะหาทางหนีให้ตัวเองเหมือนกัน จังหวะนั้น เราคงนำหน้ามันได้สัก 100 เมตร ผมเชื่อมั่นในฝีเท้าหญิงไทย


    หมายเลขโทรศัพท์ด่วนแจ้งตำรวจ คือ 191
    สถานีวิทยุ จส. 100 คือ 1137
    สถานีวิทยุ สวพ. 91 คือ 1164

แหล่งที่มา : http://www.bloggang.com