อาการวัยทองของผู้ชายนั้น จะอยู่ในช่วงอายุระหว่าง 48 - 52 ปี และอาการที่พบคือ เครียด หงุดหงิดง่าย โกรธงาย เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหวาน นอนไม่หลับ มีกำลังน้อยลง และมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ กระดูกพรุน ต่อมลูกหมากโต ปัสสาวะขัด สมรรถภาพลดลง ส่วนลักษณะภายนอกที่เห็นได้ชัด คือ กล้ามเนื้อลีบเล็กอาการลงพุง เนื่องจากการเผาผลาญไขมันลดลง ผมบางลง เป็นต้น ปัจจจัยสำคัญที่ทำให้ระดับฮอร์โมนในผู้ชายลดลง คือ อายุซึ่งเป็นปัจจัยทางธรรมชาติ ส่วนปัจจัยเสริมอื่นๆ ได้แก่ กรรมพันธุ์ ความเครียดจากการทำงาน การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความอ้วน การขาดสารอาหารบางชนิด การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ก็จะเป็นตัวเร่งให้ฮอร์โมนในร่างกายหมดเร็วขึ้น
วิธีการรักษา
อาการที่เกิดกับผู้ชายวัยทองนั้นอันดับแรก คือ การรักษาทางจิตใจ ในบางรายการพูดคุยปรึกษาแพทย์เพียงอย่างเดียวก็สามารถฟื้นฟูภาวะดังกล่าวได้ แต่ในบางรายอาจต้องใช้ยาหรือฮอร์โมนเสริม ซึ่งต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์
เพราะอาจมีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้ หากใช้อย่างไม่ถูกต้อง
ข้อแนะนำ
เมื่อสังเกตตนเองว่าเริ่มมีอาการผิดปกติ ทั้งทางร่างกายและจิตใจดังกล่าว ขอให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายทั่วไปก่อนว่ามีโรคที่อาจจะส่งผลให้เกิดอาการที่ใกล้เคียงกันหรือไม่ หากไม่มีโรคใดๆ จึงพบแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษา ได้แก่ สูตินรีแพทย์ ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องครอบครัว แพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะให้คำปรึกษา และดูแลเรื่องการใช้ยา หรือวิธีรักษาร่วมอื่นๆ อย่างไรก็ตาม การรักษาย่อมไม่ดีไปกว่าการป้องกัน หรือการยืดเวลาแห่งความเป็นหนุ่มออกไปให้นานที่สุดด้วยหลักการธรรมชาติที่มีอยู่ ดังนี้
- ดำเนินชีวิตอย่างมีวินัย ด้วยการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ควรนอนแต่หัวค่ำ เพราะฮอร์โมนเพศชายจะถูกสร้างตอนกลางคืน
- งดบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ ซึ่งมีผลต่อร่างกายในทุกๆ ระบบ
- กินอาหารที่มีประโยชน์ ลดอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล และไขมัน
- ออกกำลังกายเป็นประจำ และลดความเครียด
แหล่งที่มา :
www.bangkokhealth.com
์